การรักษาความสะอาดและดูแลสระว่ายน้ำอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ นอกจากช่วยให้น้ำใสสะอาดแล้วยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบสระว่ายน้ำ และช่วยยืดอายุการใช้งานสระว่ายน้ำของคุณออกไปได้อีกยาวนาน โดยสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
ดูแลสระว่ายน้ำด้วยการช้อนสิ่งสกปรกทุก 2-3 วัน ด้วยการใช้สวิงหรือกระชอนช้อนสิ่งสกปรก ใบไม้ แมลง และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ขึ้นจากน้ำ เพราะหากปล่อยไว้นานจะทำให้สิ่งสกปรกเหล่านี้จมลงใต้น้ำ ทำให้น้ำขุ่นหรือสกปรกได้ ยากต่อการทำความสะอาดมากยิ่งขึ้น
หากไม่ดูแลกระเบื้องและขอบสระว่ายน้ำเป็นประจำจะทำให้เกิดคราบเขชื้อราดำ และตะไคร่น้ำเกาะอยู่เต็มไปหมด นอกจากจะทำให้สระว่ายน้ำสกปรกแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดความลื่นเป็นอันตรายต่อผู้ใช้สระได้
ดังนั้นควรทำความสะอาดสระว่ายน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยใช้เครื่องดูดตะกอนสำหรับทำความสะอาดสระว่ายน้ำ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพสระว่ายน้ำของคุณเองผนังสระว่ายน้ำ หากเป็นคอนกรีตหรือกระเบื้องใช้แปรงขนแข็งทำความสะอาดได้เลย แต่ถ้าเป็นกระเบื้องไวนิลหรือไฟเบอร์กลาส แนะนำให้ใช้ฟองน้ำนุ่มๆ ทำความสะอาดก็พอแปรงขัดสระว่ายน้ำควรเป็นแปรงที่ใช้สำหรับขัดคราบสกปรกออกจากพื้นและผนังกระเบื้องสระว่ายน้ำได้ มี 2 แบบ
เป็นแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม และมีน้ำหนักเบา อายุการใช้งานสั้นกว่าแปรงสเตนเลส เหมาะสำหรับสระว่ายน้ำกระเบื้องหรือไฟเบอร์กลาส
เป็นแปรงที่มีขนแข็งมาก มีน้ำหนักและราคาสูงกว่าแปรงพลาสติก แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างยาวนาน เหมาะสำหรับสระว่ายน้ำซีเมนต์ หรือใช้กับสระกระเบื้องได้ แต่ควรระมัดระวังเรื่องรอยขีดข่วน
หลังจากใช้แปรงขัดสระว่ายน้ำเรียบร้อยแล้ว ควรต่อสายและหัวดูดเข้าด้วยกันโดยทิ้งหัวดูดลงในน้ำ แล้วกรอกน้ำเข้าสายดูดจนเต็มสาย จากนั้นจึงต่อเข้ากับเครื่องดูดตะกอนสระว่ายน้ำโดยดูดให้ทั่วทั้งพื้นและผนังสระว่ายน้ำ และเลือกหัวดูดให้เข้ากับประเภทของวัสดุที่ใช้สร้างสระว่ายน้ำ เช่น สระว่ายน้ำที่ใช้กระเบื้อง ควรเลือกใช้แปรงขนอ่อนแทนแปรงที่แข็งกว่า เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นผิวสายดูดตะกอนและหัวดูดตะกอนเป็นอุปกรณ์ดูแลสระว่ายน้ำ ใช้ต่อเข้ากับเครื่องดูดตะกอนสระว่ายน้ำ โดยหัวดูดมีให้เลือกทั้งแบบมีล้อที่ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและแบบแปรงที่ช่วยป้องกันพื้นผิวกระเบื้องเสียหาย และสายดูดตะกอนก็มีความยาวให้เลือกใช้ได้ตามขนาดของสระว่ายน้ำ
หลังจากตักใบไม้ ขยะ เศษแมลง และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ออกจะสระแล้ว ควรนำตัวกรองออกมาทำความสะอาดด้วย เพื่อป้องกันปัญหาตัวกรองอุดตัน เพราะเครื่องกรองเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลสระว่ายน้ำให้ปราศจากสิ่งสกปรก
โดยปกติควบคุมความเป็นกรดด่างของน้ำในสระจะอยู่ที่ pH 7.2-7.8 (pH>7 เป็นด่าง และ pH<7 เป็นกรด) หากค่า pH มีสภาพเป็นกรดมากเกินไป จะมีผลต่อการกัดกร่อนกาวยาแนวและกาวซีเมนต์
วิธีการใช้ชุดทดสอบค่า pH ทำได้ง่ายๆ เพียงตักนำในสระมาใส่ในหลอดทดสอบ แล้วหยดน้ำยาที่มาพร้อมชุดทดสอบประมาณ 4 หยด เขย่าให้เข้ากัน จากนั้นสามารถดูผลจากสเกลที่อยู่บนกระบอกได้เลยนอกจากค่าความเป็นกรด-ด่างแล้ว ยังมีค่าสารเคมีชนิดอื่นที่ต้องใส่ลงในสระว่ายน้ำ สามารถวัดค่าสารเคมีในน้ำโดยใช้เครื่องวัดแบบดิจิทัล ปริมาณสารเคมีชนิดอื่นๆ ควรมีค่าดังต่อไปนี้
- ค่าสารซัลเฟต ในสระว่ายน้ำควรอยู่ไม่เกิน 250 ppm หากมากเกินไปจะทำให้กัดกร่อนยาแนวและกาวซีเมนต์ได้
- ปริมาณแคลเซียม ควรอยู่ที่ 200-250 ppm หากต่ำกว่านี้จะทำให้น้ำดึงแคลเซียมจากกาวยาแนว เกิดการกัดกร่อนได้ และหากมากเกินไปจะทำให้เกิดคราบขาวบนแผ่นกระเบื้อง รวมถึงส่งผลเสียต่อปั๊มน้ำได้