ปัจจุบันการสร้างสระน้ำในบ้านเรือนกำลังเป็นที่นิยม สามารถเป็นพื้นที่หนึ่งที่สร้างความสุขและและความผ่อนคลายให้เกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มทัศนียภาพที่สวยงามให้กับบ้านหรืออาคารสถานที่ และเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านได้อีกด้วย แต่ความสนุกและมูลค่าทั้งหมดนั้นต้องใช้การลงทุนทั้งเวลาและงบประมาณ อีกทั้งต้องมีการวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบ ทั้งในเรื่องของระบบสระว่ายน้ำ พื้นที่สระว่ายน้ำ และการดูแลสระว่ายน้ำ ก่อนจะสร้างสระ ต้องวางแผนให้ดี! เหมือนจะสร้างบ้าน ก็ต้องมีแบบแปลน มาดูเช็คลิสต์กันว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง? วันนี้จะพาทุกคนมารู้จัก 6 เรื่องที่ควรรู้ก่อนสร้างสระว่ายน้ำ เพื่อเป็นการทำการบ้านศึกษาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ Perfect Pool เพื่อให้สระว่ายน้ำของคุณได้คุณภาพมาตรฐาน
1.สำรวจความต้องการในการสร้าง
ก่อนสร้างสระว่ายน้ำควรสำรวจความต้องการในการสร้างว่าต้องการสร้างเพื่ออะไร เช่น เพื่อออกกำลังกาย เพื่อเสริมบรรยากาศบ้าน หรือสร้างตามหลักฮวงจุ้ย และมีพื้นที่ใช้สร้างกว้างเพียงพอที่จะรองรับขนาดของสระว่ายน้ำได้ถึงแม้ว่าสระว่ายน้ำจะสามารถสร้างสระว่ายน้ำเล็กๆ ได้ เมื่อสร้างแล้วจะต้องคำนึงลักษณะบ้านที่ไม่ดูอึดอัดคับแคบจนเกินไป
2. สำรวจพื้นที่ในการสร้าง
นอกจากจะทราบถึงความต้องการในการสร้างแล้ว ควรทราบถึงพื้นที่สำหรับวางตำแหน่งสระด้วย เพราะมีผลต่อขนาดและระบบความปลอดภัยในการใช้งานสระว่ายน้ำ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสระว่ายน้ำจะมีขนาดต่างๆ ดังนี้ 1. สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก มีขนาดอยู่ที่ประมาณ 3x5 เมตร ความลึกไม่เกิน 70-90 ซม. 2. สระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ มีหลายขนาด เช่น 4x8 เมตร หรือ 5x10 เมตร ความลึกประมาณ 1.20-1.50 เมตร สามารถจัดพื้นที่รอบสระให้ดูมีความสวยงาม เหมาะจะเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจได้ 3. สระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกาย มีขนาดความยาวของสระอยู่ที่ 12-14 เมตร และควรมีความกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร ความลึกประมาณ 1.20-1.50 เมตร 4. สระว่ายน้ำที่ต้องการติดตั้งสปริงบอร์ด ควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 6 x 12 เมตร ความลึกประมาณ 2.50 เมตรขึ้นไป หากต้องการสร้างสระว่ายน้ำสำหรับเด็กและผู้ใหญ่รวมกัน อาจใช้การสร้างแบบต่อเนื่อง โดยแบ่งระหว่างส่วนของสระลึกกับสระตื้น หรือเทพื้นแบบลาดเอียง เพื่อความปลอดภัย
3. เลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะสม
วัสดุที่ใช้ปูพื้นสร้างสระว่ายน้ำมีทั้งกระเบื้อง ไฟเบอร์กลาส และกระเบื้องเซรามิค มีความแตกต่างกันดังนี้ 1. กระเบื้องโมเสด ใช้ตกแต่งแบบเล่นสี เล่นลาย จะทำให้สระน้ำมีลูกเล่น ดูไม่น่าเบื่อ แต่การใช้กระเบื้องโมเสคจะมีงบประมาณที่สูงมาก 2. กระเบื้องเซรามิค หากนำมาปูพื้นสร้างสระว่ายน้ำ จะมีการซ่อมบำรุงที่ง่ายกว่า แค่ไม่สามารถเพิ่มลูกเล่นลายได้เหมือนกระเบื้องแบบอื่นๆ 3. ไฟเบอร์กลาส สามารถเลือกใช้ได้ในกรณีมีงบประมาณที่จำกัด
4. เลือกรูปทรงของสระที่เหมาะสม
รูปทรงของสระว่ายน้ำขึ้นอยู่กับความชอบ ความต้องการของเจ้าของ และคอนเซปต์ของการออกแบบ รวมถึงขนาดพื้นที่ในการสร้าง ซึ่งโดยทั่วไปสระว่ายน้ำจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ 1. รูปทรงเรขาคณิต สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม หรือวงกลม ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นทรงที่นิยมใช้กันมาก มักใช้ขนาด 4 x8 เมตร หรือ 5 x10 เมตร ความลึกประมาณ 1.2 เมตร เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัดและผู้ที่ต้องการความเรียบง่าย 2. รูปทรงอิสระ ใช้ออกแบบสระว่ายน้ำให้สอดคล้องกับแบบและพื้นที่สวนของบ้าน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง มีงบประมาณไม่จำกัด การแบบสระว่ายน้ำรูปทรงนี้ไม่ควรออกแบบให้สระมีซอกมุมมากเกินไป เพราะอาจเกิดปัญหาในการปูพื้นสระว่ายน้ำและทำความสะอาดยาก
5. เลือกระบบการบำบัดที่เหมาะสม
ระบบระบบบำบัดเป็นเรื่องจำเป็นในการดูแลรักษาสระว่ายน้ำที่เจ้าของบ้านควรรู้ ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้ 3 ระบบ คือ 1. ระบบคลอรีน เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีราคาไม่แพง สามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ในสระได้ดี มีข้อควรระวังคือ ขั้นตอนการละลายคลอรีนต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและคำแนะนำการใช้ เพราะหากใช้คลอรีนไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อร่างกาย และทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ 2. ระบบสระว่ายน้ำระบบเกลือ เป็นระบบที่ใช้เกลือในการฆ่าหรือกำจัดเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่มีราคาที่สูงกว่าระบบคลอรีนมาก เนื่องจากเป็นระบบทีี่ใช้เกลือเป็นตัวฆ่าเชื้อโรคทำให้น้ำในสระมีรสกร่อย 3. ระบบโอโซน เป็นระบบการฆ่าเชื้อโรคด้วยการผลิตก๊าซโอโซนจากเครื่องอัดอากาศที่ ระบบโอโซนนี้มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคในสระสูงมาก ทำให้มีราคาแพง และมีระยะเวลาจัดการกับเขื้อโรคสั้นกว่า 2 ระบบข้างบน
6. เลือกระบบสระว่ายน้ำที่เหมาะสม
สามารถแบ่งออกได้ 2 ระบบ คือ 1.ระบบน้ำล้น (Over Flow) หรือระบบสระว่ายน้ำ Overflow เป็นระบบน้ำล้นออกจากสระ โดยน้ำจะไหลผ่านรางระบายน้ำออกไปสู่บ่อพักน้ำ และใช้ปั๊มในการดูดน้ำผ่านเข้าเครื่องกรอง เพื่อทำการกรองและฆ่าเชื้อโรค ก่อนที่จะไหลวนน้ำที่กรองแล้วกลับลงสู่สระว่ายน้ำ ข้อดี คือ ทำให้ผิวน้ำดูตึงและขอบสระสวยงาม ข้อเสีย คือ ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกบริเวณรางน้ำขอบสระ 2.ระบบสกิมเมอร์ (Skimmer) หรือระบบสระว่ายน้ำ Skimmer เป็นระบบที่น้ำในสระจะถูกนำไปบำบัด โดยผ่านช่องด้านข้างผนังสระ ทำให้ผิวน้ำจะอยู่ต่ำกว่าพื้นรอบๆ สระ ประมาณ 4-10 ซม. เพื่อทำการกรองและฆ่าเชื้อโรคก่อนกลับลงสู่สระ ข้อดี คือ น้ำไหลผ่านระบบด้วยระยะที่สั้นกว่า ไม่ต้องผ่านบ่อพักน้ำ ใช้น้ำน้อยกว่าแบบแรก ข้อเสีย คือ ระดับน้ำจะต่ำกว่าขอบสระประมาณ 4-10 ซม. อาจทำให้ดูไม่สวยงาม
เพราะเราคือคำตอบสำหรับทุกความต้องการที่เกี่ยวกับสระว่ายน้ำ ทั้งในด้านการออกแบบ ก่อสร้าง และดูแลรักษาสระว่ายน้ำ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุด Perfect Pool มีผู้เชี่ยวชาญผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างและดูแลสระว่ายน้ำในเชียงใหม่ บริการสร้างและดูแลสระว่ายน้ำแบบครบวงจร 063-532-4282
สนใจบริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Perfect Pool ได้เลย !
บริการดูแลสระว่ายน้ำในเชียงใหม่ By Perfect Pool
Promotion ดูแลสระว่ายน้ำ By perfect pool
สนใจติดติดต่อ
เบอร์ : 063-5324282
ไลน์ : @651gbpru
บทความที่เกี่ยวข้อง
